4 ขั้นตอนรับมือเมื่อธุรกิจโดนหมิ่นประมาทบนสื่อออนไลน์

หมิ่นประมาทบนสื่อออนไลน์

ในยุคปัจจุบันที่ข้อมูลสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว การโดนหมิ่นประมาทผ่านสื่อออนไลน์เป็นปัญหาที่หลายธุรกิจอาจต้องเผชิญ ผลกระทบจากการหมิ่นประมาทนี้อาจทำให้ชื่อเสียงของธุรกิจเสียหายและส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า ครั้งนี้ Bangkok Business Lawyer จะพาทุกคนไปรู้จักวิธีการแก้ไขและป้องกันปัญหานี้ รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย

1. ทำความเข้าใจการหมิ่นประมาททางสื่อออนไลน์

ก่อนอื่น ควรทำความเข้าใจ ‘การหมิ่นประมาท’ เสียก่อน โดยการหมิ่นประมาท หมายถึง การกล่าววาจาประทุษร้าย ทําลายชื่อเสียงของบุคคลอื่นให้ได้รับความเสียหาย ถูกคนทั้งหลายดูหมิ่นดูถูกเกลียดชัง ขาดความนับถือ แม้ถ้อยคําที่กล่าวออกมานั้นจะเป็นถ้อยคำที่สุภาพหรือเป็นความจริงก็ตาม ส่วนการหมิ่นประมาททางสื่อออนไลน์หมายถึง การเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือความคิดเห็นที่ไม่เป็นความจริงซึ่งทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายบนสื่อออนไลน์

ในประเทศไทย มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นประมาทดังนี้:

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 กำหนดว่า “ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิด ฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 กำหนดว่า “ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท”

2. การปฏิบัติเมื่อถูกหมิ่นประมาท

หลังจากพิจารณาตามข้อกฎหมายตามมาตราดังกล่าว และพบว่าธุรกิจของท่านโดนหมิ่นประมาทผ่านสื่อออนไลน์ มีขั้นตอนที่ควรปฏิบัติเพื่อแก้ไขและปกป้องชื่อเสียงดังนี้:

2.1 รวบรวมหลักฐาน
เก็บหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นประมาท เช่น รูปภาพของข้อความหรือโพสต์ วิดีโอ หรือเอกสารอื่น ๆ ที่สามารถใช้ในการพิสูจน์ในชั้นศาลได้

2.2 ติดต่อผู้เผยแพร่ข้อมูล
ติดต่อผู้เผยแพร่ข้อมูลหรือผู้ดูแลเว็บไซต์ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลหมิ่นประมาทเพื่อขอให้ลบข้อมูลนั้นออก

2.3 ขอคำปรึกษาทางกฎหมาย
การขอคำปรึกษาจากสำนักงานกฎหมายที่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจจะช่วยให้ท่านได้รับคำแนะนำและการช่วยเหลือในการดำเนินการทางกฎหมายที่เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจของท่าน

3. การฟ้องร้องทางกฎหมาย

หากการติดต่อและการขอความร่วมมือไม่เป็นผล การฟ้องร้องทางกฎหมายเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถใช้ในการปกป้องชื่อเสียงของธุรกิจ โดยมีขั้นตอนดังนี้:

3.1 ยื่นคำร้องต่อศาล
ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งการให้ผู้หมิ่นประมาทหยุดการกระทำและลบข้อมูลที่หมิ่นประมาทออก

3.2 ดำเนินคดีในชั้นศาล
สำนักงานกฎหมายจะช่วยท่านในการจัดเตรียมเอกสารและดำเนินคดีในชั้นศาล เพื่อให้ท่านได้รับความยุติธรรมและสามารถเรียกร้องสินไหมค่าทดแทนตามการพิจารณาของทางศาล

4. การป้องกันการหมิ่นประมาทในอนาคต

เพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้ธุรกิจของท่านต้องเผชิญกับปัญหานี้อีกในอนาคต จำเป็นจะต้องเตรียมการป้องกัน ทำได้โดย

4.1 การจัดการภาพลักษณ์ออนไลน์
การบริหารจัดการภาพลักษณ์ของธุรกิจในโลกออนไลน์ เช่น การตอบสนองความคิดเห็นของลูกค้าอย่างรวดเร็วด้วยความใจเย็น เป็นมืออาชีพ ใช้ภาษาสุภาพ เป็นต้น

4.2 การสร้างนโยบายการใช้สื่อสังคม
สร้างนโยบายการใช้สื่อสังคมที่ชัดเจนและให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตาม เพื่อลดความเสี่ยงในการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจทำให้เกิดการหมิ่นประมาท

สรุป

การหมิ่นประมาททางสื่อออนไลน์สามารถทำให้ธุรกิจของท่านได้รับความเสียหายอย่างมาก การรวบรวมหลักฐาน การขอคำปรึกษาทางกฎหมาย และการฟ้องร้องทางกฎหมายเป็นวิธีการที่สามารถช่วยปกป้องชื่อเสียงของธุรกิจได้ อย่างไรก็ตาม การป้องกันไม่ให้เกิดการหมิ่นประมาทตั้งแต่แรกเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากท่านต้องการคำปรึกษาทางกฎหมายเพิ่มเติม Bangkok Business Lawyer เป็นสำนักงานกฎหมายที่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ พร้อมยืนเคียงข้างช่วยเหลือธุรกิจของท่านเมื่อประสบปัญหา ดูบริการด้านฟ้องร้องคดี

Summary
4 ขั้นตอนรับมือเมื่อธุรกิจโดนหมิ่นประมาทบนสื่อออนไลน์
Article Name
4 ขั้นตอนรับมือเมื่อธุรกิจโดนหมิ่นประมาทบนสื่อออนไลน์
Description
เรียนรู้วิธีรับมือเมื่อธุรกิจของคุณโดนหมิ่นประมาทบนสื่อออนไลน์ ด้วย 4 ขั้นตอนสำคัญจาก Bangkok Business Lawyer เพื่อปกป้องชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของลูกค้าของคุณ
Author
Publisher Name
Bangkok Business Lawyer & CO.
Publisher Logo